TreeTechNews มาแล้ว Z Flip 4, Fold4 Samsung ภูมิใจนำเสนอรุ่นใหม่ แน่นกว่าเดิม สเปคดีกว่าเดิม ทนทานกว่าเดิม Z Flip 4 เริ่มเพียง 35,900 , Z Fold 4 เริ่มเบาๆ 59,900
ถ้าหากนับเฉพาะยุคสมาร์ทโฟนปัจจุบันก็ประมาณ 2 ปีเต็มแล้วตั้งแต่รุ่นแรกอย่าง Galaxy Z Flip เปิดตัว (11 กุมภาพันธ์ ปี 2020) ในระยะเวลา 2 ปี Samsung พาสมาร์ทโฟนทางเลือกแบบฝาพับทั้งรุ่นกระทัดรัด และ รุ่นใหญ่ที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้ต่างกันเดินทางมาถึง Gen ที่ 3 และ วันนี้ Samsung กล้าจะบอกกับโลกว่าพวกเขาพัฒนามาในจุดที่ใกล้เคียงคำว่า “สมบูรณ์แบบ”
เอาจริงๆตั้งแต่เมื่อคืนบรรดาพี่ๆ อินฟลูฯช่องเด็ดดังคงมีการนำเสนอกันไปอย่างละเอียดกันแล้ว ในส่วนของทางเราจะบอกเล่าแบบสรุปให้ฟังละกันครับ เริ่มจาก Z Flip 4 ก่อนตัวนี้ก็เป็นขวัญใจคนชอบเล่นมือถือแต่ไม่ได้ใช้หนักหน่วง อยากพกสบายๆ อยากห้อยคอ หรือ ใช้ตามนางเอก พระเอกซีรี่ส์เกาหลีก็แล้วแต่ มาในรุ่นปัจจุบันใครที่รอหน้าตาใหม่ๆก็อาจจะผิดหวังเพราะหน้าตาไม่ได้ต่างจากเดิมเลย
มีเพิ่มเติมคืนเฉดสีใหม่ และ สเปคที่ปรับปรุงมาจากรุ่นที่แล้ว โครงอลูมิเนียม หน้าจอ Dynamic AMOLED ที่มีรีเฟรชเรทอยู่ในระดับ 120Hz แบบ Adaptive อัตราส่วน 22:9 พร้อมกล้องหน้าแบบเจาะรู 10MP จอด้านนอก AMOLED เช่นกันในขนาด 1.9 นิ้ว โดย Samsung ได้มีอัพเกรดให้สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่่องของแทบแจ้งเตือน หรือ แทบข้อมูล และ ปรับให้สอดคล้องกับ Theme หลักที่มือถือใช้อยู่ด้วย
ชิปใช้ Snapdragon 8 Plus Gen 1 ชิปเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm พร้อมแรม 8GB และ ความจุภายในมี 128/256/512GB กล้องหลักความละเอียด 12MP และ เลนส์ Ultrawide ขนาด 12MP ระบบปฏิบัติการณ์ Android 12 ครอบทับด้วย OneUI 4.1 ทีเด็ดคือ FlexMode ที่มีอยู่ในเฉพาะ Z Series เพื่อจัดระเบียนหน้าจอในใช้ App ต่างๆเช่น Google Meet, หรือ Zoom การจัดหน้าหลายหน้าต่างที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น
แบตเตอรี่คืออีก 1 ที่แฟนๆ Z Flip ต้องการมาตลอด มาวันนี้ Samsung อัพให้เป็น 3,700mAh แล้ว จากรุ่นเดิม 3,300mAh และ ความเร็วในการชาร์จยังขยับเป็น 25W ด้วยจากเดิม 15W สีที่มีจำหน่ายมี 3 สีได้แก่ Graphite, Pink Gold, Bora Purple และ Blue
ในส่วนของ Z Fold 4 มือถือพับได้ที่ฟีเจอร์การใช้งานจะไปในแนวคิดว่าคงจะดีมิใช่น้อยถ้าคุณพกอุปกรณ์ที่จอใหญ่น้องแท็บเล็ตได้ในขนาดแค่มือถือปกติ และ หลังจากผ่านการปรับปรุงมาตลอด 3 รุ่นที่ผ่านมาหนนี้เน้นหลักไปที่การใช้งานหลายหน้าต่าง (Mulstitasking) และ รองรับการใช้งาน S PEN ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
หน้าตามิติตัวเครื่องมีการปรับให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น พูดรวมๆได้ว่าลดขนาดตัวเครื่อง ขยายบริเวณของจอ ทำให้ความหนาลดลง ขอบจอบางลง น้ำหนักดีขึ้น อัตราส่วนของจออยู่ที่ 6:5 ด้วยขนาดหน้าจอ 7.6″ รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่าง 1000 nits โครงเครื่องเป็นอลูมิเนียม หน้าจอ Gorilla Glass Victus Plus กันน้ำกันฝุ่น IPX8 การันตีเปิด – ปิดไม่มีปัญหา ใน 200,000 ครั้ง
กล้องหลัง 50MP ถอดมาจาก Galaxy S22 และ S22 Plus มีกันสั่น OIS และ EIS กล้อง Telephoto 10MP ตัวนี้ใส่มาใหม่ซูมได้ x3 ใช้ Spacezoom ได้ 30x กล้อง Ultrawide 12MP กล้องหน้าแบบเจาะรู 10MP กล้องในใต้จออีกตัวความละเอียด 4MP ชิปใช้ Snapdragon 8+ Gen 1 ความจุมีให้เลือกตั้งแต่ 256 – 1TB แบตเตอรี่ 4400mAh ชาร์จไว 25W
หลักๆก็ประมาณนี้ ใครที่ยังไม่มี Galaxy Z Flip 4 และ Z Fold 4 ก็บอกได้เลยว่าน่าใช้้เป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าใครอยากได้ Z Fold 3 ราคาบายกระเป๋าทางร้านก็มีจำหน่ายเช่นเดียวกัน ฝากไว้ด้วยครับ